เกมเดาใจ

ถ้าพูดถึงร้านเซเว่นฯ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงอะไรครับ?
‘ขนมจีบ ซาลาเปา’
‘สเลอปี้’
‘ใส้กรอกบิกไบท์’
‘แสตมป์โดเรมอน’
‘ข้าวกล่องแช่เย็น’
‘กล้องวงจรปิดจับโจร’
…ฯลฯ

ผมเชื่อว่า คำตอบแรกน่าจะมีคนนึกถึงมากที่สุด เพราะนี่เป็นคำพูดติดปากพนักงานขายที่กลายเป็นโลโก้ จนตลกหลายๆเวทีเอาไปล้อกัน
แต่เดี่ยวนี้เขาพัฒนาไปอีกขั้น ไม่ใช่ตะบี้ตะบันเชียร์เฉพาะสินค้าสองตัวนี้เท่านั้น
ซื้อเบียร์ อาจเชียร์ให้ซื้อสแน็กเพิ่ม
ซื้อขนม จะเชียร์ให้ซื้อน้ำดื่ม
ซื้อถุงยา…ง จะเชียร์ให้ซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง
อะแฮ่ม! จะได้มีแรงคุมกำเนิด
นี่เป็นวิธีขายพ่วงแบบบ้านๆ ประมาณว่ากลัวลูกค้าลืม เลยช่วยเตือนกันหน่อย

วิธีของเซเว่นฯ เป็นการเชียร์สินค้าที่น่าจะเข้าคู่กับเมนูที่ลูกค้าเลือกแล้ว
แต่ถ้าลูกค้ายังไม่ตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างเลย จะเชียร์อะไรดีครับ?
โจทย์นี้จัดว่ายากทีเดียวครับ เพราะคล้ายกับเล่นเกมเดาใจ

ส่วนใหญ่จะปล่อยให้ลูกค้าเดินดูตามอำเภอใจไปก่อน จากนั้นค่อยเดินไปประกบ
“สนใจชิ้นไหน ถามได้นะคะ”
“นี้เป็นรุ่นใหม่เลยนะคะ มีหลายสี”
การเดินตามประกบลูกค้า จัดเป็นงานศิลปะชั้นสูงนะครับ ทำให้ถูกใจลูกค้าได้ยากเหลือเกิน
จะเดินตามไปใกล้เกินไป อาจรบกวนความเป็นส่วนตัว พาลทำให้ลูกค้าหงุดหงิดได้
แต่หากยืนห่างเกินไป ก็อาจไม่รู้ว่าลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ ก็ไม่รู้อีก

ร้านบางแห่งใช้วิธีจัดมุม ‘สินค้าแนะนำ’ ‘สินค้าใหม่’ หรือ ‘สินค้าขายดี’ เป็นไกด์ไลน์
ไอเดียแบบนี้จะมีให้เห็นเยอะสุดตามร้านหนังสือครับ

แล้วถ้าเป็นเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ(Vending Machine)หล่ะครับ จะเชียร์แขกอย่างไร
ฟังดูไม่น่าจะเป็นไปได้ใช่ไหมครับ
แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ อะไรๆก็เป็นไปได้
การจ่ายเงินซื้อสินค้าจากเครื่อง Vending Machine ก็เปลี่ยนจาก ‘หยอด’ มาเป็น ‘แตะ’
จาก ‘เหรียญ’ มาเป็น ‘บัตรหรือมือถือ’

ส่วนการโชว์สินค้า ก็เปลี่ยนจาก ‘โชว์สินค้าตัวเป็นๆ’ มาเป็น ‘รูปภาพ’ จากนั้นก็ค่อยๆพัฒนามาเป็น ‘ภาพเคลื่อนไหว’
และเมื่อมีเทคโนโลยีทัชสกรีน ลูกเล่นการดีสเพลย์สินค้าก็ทำได้ตื่นตาตื่นใจกว่าเดิม

แต่เอ…ในเมื่อเดี๋ยวนี้มีหุ่นยนต์จำนวนมากมายที่สามารถโต้ตอบ สื่อสารกับมนุษย์ได้ ทำไมไม่ลองเอามาใช้กับเครื่องขายสินค้าบ้างหละ?
ว่าแล้ว บริษัท JR East Water Business ก็เลยนำเทคโนโลยีการจดจำหน้าบุคคลมาใช้
หลักการก็คือว่า เมมโมรี่ภาพบุคคลลงไปในเครื่อง
เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาซื้อ เซ็นเซอร์จะทำงานและกล้องก็จะบันทึกภาพ แล้วส่งไปประมวลผล เพื่อสรุปว่า ลูกค้าที่ยืนตรงหน้า เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง อายุประมาณไหน วัยรุ่น วัยกลางคน หรือผู้สูงอายุ

เมื่อได้คำตอบแล้ว เครื่องขายสินค้าอัตโนมัติก็จะเสนอ “สินค้าแนะนำ” โดยทำเป็นลักษณ์วงกลมสีแดงที่เครื่องดื่ม
ถ้าเป็นผู้ชาย จะแนะนำกาแฟ
ถ้าเป็นผู้หญิงอายุราวๆ 20 ปี จะเสนอเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อย เพราะผลวิจัยพบว่า สาวๆวัยรุ่นจะห่วงเรื่องน้ำหนัก
ถ้าเป็นผู้สูงวัย จะให้ดื่มชา เพื่อสุขภาพที่ดี
นอกจากนี้ ก็มีการปรับเปลี่ยนสินค้าแนะนำไปตามอุณหถูมิในแต่ละวันด้วย
อ้อ! ระหว่างที่ไม่มีลูกค้าซื้อ หน้าจอจะแปลงเป็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ครับ แต่เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในรัศมีทำการ หน้าจอจึงจะเปลี่ยนเป็นชั้นโชว์สินค้า

นี้เป็นเพียงเครื่องแรก โดยทดลองติดตั้งที่สถานีรถไฟในกรุงโตเกียว คาดว่าคงมีการปรับปรุง เพิ่มเติมอ็อปชั่น ก่อนจะขยายให้ครบ 500 เครื่องในอีก 2 ปีข้างหน้า

ว่าแต่… เครื่องนี้จะรู้ได้อย่างไร ว่าที่ยืนตรงหน้า เป็นชายจริง หญิงแท้ และไม่ได้ทำเบบี้เฟส